ประเทศไทยตอนนี้



ติดเหลือง แดง อยู่นี่เอง ชาติ (นี้) ไม่ต้องไปไหน

สังคม ไทย หยุดนิ่งไม่พัฒนามา 2-3 ปีแล้ว เพราะติดไฟเหลืองกับไฟแดง จนเพื่อนบ้านแซงหน้าประเทศไทยไปหมดแล้ว นับเป็นความโชคร้ายของประเทศไทยโดยแท้ คนไทยส่วนใหญ่ อยากเห็นไฟเขียว ที่จะเปลี่ยนผ่านบ้านเราไปสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง

เป็นที่รับรู้ของคนในแวดวงการตลาดและโฆษณาว่าป้ายโฆษณายักษ์ที่ตั้งอยู่อยู่ ข้างๆกับตึกของ "ประกิต โฮลดิ้ง" ริมทางด่วน บางนา (สุขุมวิท 62 ) นั้นเป็นป้ายโฆษณาที่มีไว้สำหรับโฆษณาประชาสัมพันธ์ในเชิงสร้างสรรค์สังคมใน โอกาสต่างๆ

และที่ฮือฮาจนกลายเป็นที่รับรู้ของสังคมคือ โฆษณาชุดเมาไม่ขับ ที่ทำเป็นรูปป้ายทางด่วน ใช้ตัวอักษรคล้ายของจริง เปลี่ยนชื่อ "ยมราช" เป็น "ยมโลก" จาก "ดาวคะนอง" เป็น "เมาคะนอง" จาก "แจ้งวัฒนะ" เป็น "แจ้งมรณะ"

ล่าสุด ได้นำเสนอป้ายโฆษณาสร้างสรรค์สังคมในอีกโอกาสหนึ่ง ด้วยการนำเสนอป้ายโฆษณาที่มีไฟสัญญาณจราจรเพียง 2 สีเท่านั้น คือ "ไฟสีแดง" และ "ไฟสีเหลือง" พร้อมระบุข้อความว่า "ชาตินี้ไม่ต้องไปไหน" พร้อมคำขอร้องต่อว่า...เพื่อพ่อ ให้ชาติไปต่อเถอะครับ

เพราะถ้าสัญญาณไปของประเทศไทยมีแค่ไฟ 2 สี ประเทศชาติก็จะไปไหนไม่ได้สักที ติดอยู่กับ "2 สี" นี้แหละ

โฆษณาชิ้นนี้ "ประกิต อภิสารธนรักษ์" บอสใหญ่ค่ายประกิตฯ นักโฆษณารุ่นเก๋า และต้นฉบับโฆษณาเพื่อสังคมในยุคแรกๆ บอกว่า ได้ติดตั้งมาตั้งแต่ต้นเดือธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งคนที่ผ่านไปผ่านมาก็โทรเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยมานาน

เป็นการสื่อความหมายที่เชื่อว่าตรงใจคนไทยหลายๆ คน

หัวใจที่ธรรมชาติสร้างสรรค์

เรื่องของเกรด

A = animal สมองน้อย
อันเกรด A เขาว่าเหมือนเช่นสัดว์
วันๆ ฟัดแต่ตำราน่าอดสู
A Animal สมองน้อยหงอยน่าดู
สงสัยครู ให้ได้ไง ไม่ค่อยเจอ

B = basic ก็แค่พื้นๆ
B Basic ใครๆก็ทำได้
เพราะมันง่ายกันไปจนน่าขำ
คนว่า"เบ" เกินไปเลยไม่ทำ
กลัวตอกย้ำความเบสิกสะกิดใจ

C = common ธรรมดา งั้นๆ
C Common แบบนี้สิใช้ได้
คนทั่วไปยอมรับและนับถือ
เกรดแบบนี้ได้มาเรียก "ฝีมือ"
แต่ก็ถือว่ายังอ่อนเกินไป

D = diligent ฉลาด หลักแหลม
D Deligent เกรดสุดฮิตของคนขยัน
ฟิตทั้งวันแต่เลคเชอร์ไม่เคยสน
conc. วิชา จีบสาว ม่อเกินทน
สุดยอดคน นายเยี่ยมมาก พูดจากใจ

F = fever เก่งจนเกิดกระแสความดัง
เกรดใดๆไม่เท่า F Fever
ได้กันเกร่อรู้ทั่วถึงไหนๆ
ใครได้มา ก็ Fever น่าชื่นใจ
แล้วค่อยไป เรียนซัมเมอร์ ด้วยกันเอย....

ดอกไม้ประจำเดือนเกิด


"ว่ากันว่าสีและรูปทรงของดอกไม้นั้นเกี่ยวพันกับการเคลื่อนที่ของดวงดาว ไม่ว่าจะเป็นสี ทรวดทรง รอยหยักแม้กระทั่งลักษณะเกสรของกลีบดอก ก็บ่งบอกถึงคนที่เกิดในเดือนนั้นๆ"



ใครเกิดเดือนไหนก็เชิญเลือกอ่านดูได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ


1.
เดือนมกราคม - ดอกเบญจมาศ

"
ดอกเบญจมาศ" นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสูงส่ง ในบางแห่งใช้ดอกเบญจมาศนี้แทนสัญญลักษณ์ของกษัตริย์ หรือราชวงศ์ที่สูงศักดิ์ ดอกเบญจมาศมักบานเป็นเวลานานก่อนที่จะโรยรา ซึ่งแอบแฝงความนัยว่า มีหลักแหลมแฝงอยู่ตัวตนเป็นพิเศษผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงฉลาดหลักแหลม มีความสำเร็จในชีวิต และมีเพื่อนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา เช่นเดียวกับกลีบที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ หลายชั้นมีคนอุ้มชู เกื้อหนุนตลอดเวลา แถมยังเป็นนักฟังที่ดีด้วย 

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมกราคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักจะเป็นนักอนุรักษ์นิยมเกี่ยวกับประเพณี และมักจะหัวโบราณกว่าชาวเดือนอื่น



 

2. เดือนกุมภาพันธ์- ดอกกล้วยไม้

"
ดอกกล้วยไม้" นั้น ถือว่าเป็นที่ต้องการดูแลการเอาใจใส่เป็นอย่างดี ต้องปลูกในที่ร่มในเรือนเพาะชำคำนวนอัตราสัดส่วนของน้ำและแสงให้พอเหมาะ ถึงจะงอกงามสวยงาม เช่นกัน ผู้ที่เกิดในนี้ จึงเป็นต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์มีความใฝ่ฝันที่จะผลักดันความฝันตัวเองให้เป็นจริง และเต็มไปด้วยความเอื้ออาทรและเอาใจใส่ทุกๆสิ่งทุกอย่างรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ มีความฉลาดหลักแหลม รักธรรมชาติ และใจกว้าง แต่เนื่องจากกล้วยไม้นั้นเป็นดอกไม้มีกลีบดอกที่ค่อนข้างหนา บานได้นานกว่าดอกไม้อื่นๆ จึงต้องดูแลในระยะยาวนานและจริงจัง เพื่อให้มันคงความงดงามอยู่ตลอดไป

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกุมภาพันธ์
คุณเป็นคนที่มีความสนใจในด้านปราชญาศาสนา ประวัติศาสตร์ สถูปโบราณ แต่ก็สนใจความรู้สมัยใหม่ร่วมไปด้วย เพื่อผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน

 

3. เดือนมีนาคม - ดอกคาร์เนชั่นแดง

"ดอกคาร์เนชั่นแดง" นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้โปรดของบรรดาเหล่าศิลปิน เพราะเป็นดอกไม้แห่งความฝันอันลึกลับ เป็นแรงบันดาลใจที่ปรากฏขึ้นให้เห็นในโลกแห่งตัวตนของคนในเดือนนี้ เมื่อความฝันนั้นถูกนำเข้าสู่ความจริง ไม่ว่าจะด้วยงานเขียนภาพแนวสร้างสรรค์ หรืองานบริการต่างๆ ก็ตาม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้ ส่วนใหญ่จึงมีบุคลิกเป็นไปในทางอาร์ท ศิลปิน ออกแนวเซอร์ กันให้เห็นอย่างชัดเจน

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมีนาคมนั้น
มีสัมผัสพิเศษในการติดต่อกับโลกแห่งวิญญาณ มีใจฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนเป็นการส่วนตัว

 

4. เดือนเมษายน - ดอกลิลลี่

"
ดอกลิลลี่" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอยู่แล้ว สังเกตได้ว่าดอกลิลลี่จะโดดเด่นกว่าดอกไม้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจัดช่อหรือการจัดซุ้มดอกไม้ และก็เป็นที่ประทับใจให้กับทุกๆคนที่ได้รับมันด้วย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนเมษานั้น มีความสนใจในด้านปราชญาที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและภาพเขียนแนวสัจนิยม





 

5. เดือนพฤษภาคม - ดอกลีลาวดี

"ดอกลีลาวดี" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้บ่งบอกถึงความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ บอกถึงความเป็นตัวตนของผู้ที่เกิดเดือนนี้ ด้วยลักษณะของดอกลีลาวดีมีสีขาว มองดูแล้วให้ความสงบสุข ผู้ที่เกิดเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีบุคลิกที่รอบคอบ สุขุม และจะมองการณ์ไกล สุขุมรอบคอบ และเต็มไปด้วยความรักในมวลมนุษย์ ดอกลีลาวดีนี้มักถูกปลูก หรือแต่งแต้มสีสันลงในภาพวาดภาพเขียนเพื่อนชื่นชม และใช้ประโยชน์ตั้งแต่แกลอรี่งานศิลปะ ไปจนถึงการนำไปปรุงแต่งเป็นน้ำมันหอมระเหยหรืออะไรมาเธอราพี เพื่อบำบัด นอกจากนั้นยังนำมาปรุงอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะฉะนั้นคนที่เกิดเยี่ยงดอกลีลาวดีนี้มักโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤษภาคมนี้
คือเป็นผู้ชื่นชมความงามของธรรมชาติอย่างมาก และมีสัมผัสพิเศษในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ

 

6. เดือนมิถุนายน - ดอกเล็บมือนาง

"
ดอกเล็บมือนาง" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะมักจะบานบ่อยๆ ด้วยเสน่ห์แบบง่ายๆ และความเฉลียวฉลาด เป็นดอกไม้ที่มีความงามแบบเฉพาะตัวเมื่อปลูกอยู่ริมรั้ว ผู้ที่มีดอกไม้นี้เป็นดอกประจำเดือน มักจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่น แต่อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมิถุนายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะสนใจเรื่องศาสนาและนิกายแปลกๆ


 

7. เดือนกรกฎาคม - ดอกบัว

"ดอกบัว" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานในสระน้ำลึก บรรยากาศที่ดีเป็นสิ่งที่จะทำให้ดอกไม้นี้ผลิบานงดงามเต็มที่ ผู้ที่เกิดเดือนนี้ก็เช่นกัน เค้าต้องการสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น สวยงาม เรียบร้อยและมีระเบียบ ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักจมอยู่กับห้วงแห่งความฝัน มักคาดหวังในชีวิตสูง

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกรกฎาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักฝักใฝ่ที่จะแก้ไขปัญหาในทุก
ๆ เรื่อง และชอบที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความกรุณาเอื้ออาทรสูง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี

 

8. เดือนสิงหาคม - ดอกทานตะวัน

"ดอกทานตะวัน" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตร และความสดใสร่าเริง ที่สำคัญยังงามโดดเด่น ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ที่อารมณ์ดีที่สุดในหมู่ดอกไม้ทั้งหมด ดอกไม้ชนิดนี้มีใจกลางดอกที่งามเด่น แสดงถึงความมั่นใจและไม่ค่อยเรื่องมากในเรื่องของความรัก แม้จะเด่นก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเป็นพิเศษ กลับชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษหาความสนุกสนานใส่ตัวมากกว่า

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนสิงหาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักมีความนับถือในพระอาทิตย์
ชื่นชมแสงแดดเป็นพิเศษ และที่สำคัญรักธรรมชาติเป็นที่สุด

 

9. เดือนกันยายน - ดอกทิวลิป

"ดอกทิวลิป" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความนุ่มนวลและถูกขัดเกลามาอย่างดี ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นๆ มากกว่าระดับปกติ มีหัวใจที่ลึกซึ้งด้วยความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้างแสดงถึงความฉลาดหลักแหลม ชอบที่จะใช้วิธีในทางธรรมชาติบำบัด ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้แห่งความรู้สึก "ซาบซึ้ง" โดยจะสังเกตเห็นได้จาก เป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงระเบียบ ตรงต่อเวลา แต่ก็มักวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ ได้ง่าย

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกันยายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะชอบเข้าวัดและผูกพันลึกซึ้งกับศาสนา
เชื่อเรื่องโชคลางโหราศาสตร์เป็นพิเศษ

 

10. เดือนตุลาคม - ดอกกุหลาบ

"ดอกกุหลาบ" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่น อ่อนหวาน เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แถมชอบบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธ์ ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงหลงไหลกับบรรยากาศรอบข้างไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก ออกจะรกกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป และเนื่องจากดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม จึงมีอิทธิพลให้ชาวเดือนนี้มักเป็นคนที่มีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนตุลาคม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้เชื่อมั่นในความรัก
และศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง รักความสงบเป็นพิเศษ

 

11. เดือนพฤศจิกายน - ดอกตะบองเพชร

"ดอกตะบองเพชร" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่แอบแฝงด้วยความลึกลับในกำเนิด และเกสร รวมทั้งในทุกๆ กลีบดอก ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักมีความลับนับร้อยๆ อยู่ในการดำเนินชีวิตของเขา แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูงเพศตรงข้ามได้อย่างล้ำลึก เนื่องจากน่าสนใจและน่าค้นหาไม่รู้จบนั่นเอง ชาวเดือนนี้จึงมักชอบอยู่เงียบ ๆ ในออฟฟิตมากกว่าจะออกไปสังคมข้างนอก และมักจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่เสมอ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤศจิกายน ผู้ที่เกิดเดือนมักมีสัมผัสเร้นลับเกี่ยวกับความเชื่อโชคลางและศาสนา


 

12. เดือนธันวาคม - ดอกพุทธรักษา

"ดอกพุทธรักษา" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสนุกสนาน ความโชคดีของชีวิต มีความสว่างไสวอยู่ในมุมที่น่าเบื่อที่สุดของสวน ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมีความประพฤติดีๆ และมีระเบียบวินัยที่ผ่อนคลายยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา จึงมักที่จะเป็นแรงกำลังใจให้กับเพื่อนฝูงในเวลาตกต่ำของชีวิต ทำให้คนอื่นรอบข้างมองโลกในทางที่ดีขึ้น เบิกทางสู่เสรีภาพ และมักนำคนรอบข้างไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องอยู่เสมอ

จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนธันวาคม มีบุคลิกโดดเด่น
ร่าเริงและมีความสามารถในการปลอบโยนให้กำลังใจคนได้ดี และที่สำคัญมีความศรัทธาเกี่ยวกับเรื่องการก่อตั้งองค์กรทางศาสนา

กรุ๊ปเลือดฉบับการ์ตูน





















 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 





คนวาดตัวจริงเป็นชาวเกาหลีที่ใช้นามแฝงว่า Realcrazyman หรือ 쳐돌았군맨 ในภาษาเกาหลี เจ้าของเว็บไซต์ http://www.cyworld.com/realcrazyman และ http://paper.cyworld.com/mazingablue

ตำราไม่ล้างไต

สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคไตให้พ้นทุกข์จากการฟอกไตด้วย เรื่อง ตำราไม่ล้างไต


ถ้าข้าพเจ้าได้รับตำรานี้เมื่อ 25 ปีก่อน ลูก ๆ คงไม่ต้องมาร้องเพลงชื่อ " คนอื่นมีแม่ ฉันไม่มี"



การที่จะ เอาเมล็ดลิ้นจี่มาทำยานั้นง่ายมากสำหรับข้าพเจ้าเพราะที่บ้าน ปลูกต้นลิ้นจี่กว่า 50 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่า มันคือยาวิเศษในการรักษาโรคไต คู่ชีวิตของข้าพเจ้าต้องทรมานเสียเวลา 14 ปีในการฟอกไตและในที่สุดก็ต้องจากไป



ในใต้หวันมีผู้คนป่วยเป็นโรคไตจำนวนมากที่ต้องทำการฟอกไต การที่ต้องไปฟอกไตเพราะไตเสื่อมลง จนไม่มาสามารถขับถ่ายของเสียออก บางทีญาติหรือเพื่อนของท่านบางคนกำลังฟอกไตอยู่ จึงอยากให้ท่านช่วยเผยแพร่ตำราวิเศษออกไปให้ทั่ว จะเป็นบุญกุศลยิ่ง คนที่นำไปทดลองใช้จะมีแต่ได้ ไม่มีเสียอย่างแน่นอน ช่วยได้ 1 คนเท่ากับช่วยทั้งครอบครัว



ข้าพเจ้า เป็นโรคไตเพราะเป็นโรคเบาหวานนาน 20 ปี ความเป็นทุกข์ ทรมานนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเบื่อต่อชีวิต และคิดจะจบชีวิตตนเองหลายครั้ง แต่มาคิดได้ว่า ถ้าเราพ้นทุกข์แล้วทำให้หลายคนต้องรับทุกข์ต่อ ลูกหลานหลายคนยังเรียนไม่จบ ยังตั้งตัวไม่ได้ เลยรับกรรมไปฟอกไตต่อ มีคนเสนอตำราลับ ตำราวิเศษให้ แต่ไม่เคยเชื่อ ข้าพเจ้าเชื่อแต่แพทย์แผนปัจจุบัน จึงเดินเข้าห้องฟอกไต ขอสู้กับมัจจุราชต่อไป



ข้าพเจ้า เกิดนึกถึงคำพังเพยจีนว่า "ม้าตายแล้ว ให้นึกว่ารักษาม้าเป็น" บางทีชีวิตนี้อาจมีความหวัง จึงขอทดลอง หลังฟอกไตครั้งที่ 2 แล้ว คุณน้ามาเยี่ยมถามว่าอยากลองตำราวิเศษไหม รับรองไม่ต้องฟอกไต อีกต่อไป ข้าพเจ้าก็ตกลงทันที ตอนบ่ายคุณน้านำซุปเส้งจี้มา 1 หม้อแบ่งดื่ม 2 ครั้ง วันที่ 2 นำมาอีก 1 หม้อ (ราว ชามครึ่ง) พร้อมให้กินเส้งจี้อีกครึ่งลูก ในวันนั้น ปรากฏว่าการถ่ายปัสสวะดีขึ้น พอวันที่ 3 ซึ่งจะต้องฟอกไต แต่หมอตรวจแล้วว่าวันนี้ยังไม่ต้องฟอกก่อน



ข้าพเจ้าได้ดื่มซุปเส้งจี๊ประมาณ 1 อาทิตย์ ไปตรวจอีก คราวนี้หมอประหลาดใจมาก แจ้งว่าไตปกติแล้ว ไม่ต้องฟอกแล้ว


ตำราวิเศษมีดังนี้

  • เมล็ด ลิ้นจี่สด 7 เม็ด ทุบให้แตกแล้วใช้ผ้าขาวอย่างบาง ๆ ห่อไว้ 
  • ซื้อเส้งจี๊หมู 1 ลูก หั่นเป็นแผ่นบางล้างให้สะอาดเลาะเอาเอ็นสีขาวออก
  • เอาน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 จำนวน 2 ชาม นำเข้าใส่ในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ทำการนึ้งเป็นเวลา 30 นาที
  • แล้วให้ดื่มหมดครั้งเดียวก็จะได้ผล
ข้าพเจ้าได้พ้นจากฟอกไตเพราะตำรานี้ จึงขอความกรุณาทุกท่าน ช่วยเผยแพร่ตำรานี่แก่ผู้ป่วยเป็นโรคไต ให้พ้นทุกข์จากการฟอกไตด้วย จะเป็นบุญกุศลอย่างยิ่ง


เพิ่มเติม: ผมเคยฟังรายการวิทยุได้จดไว้เเละข้อมูลตรงกัน

ปีกไก่มรณะ สำหรับผู้หญิง!!

 !! DEADLY WINGS !!
ปีกไก่มรณะ


 



เฉพาะสุภาพสตรี!! หลีกเลี่ยงการกินปีกไก่บ่อยๆ จากเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้าเมื่อเร็วๆนี้มีสิ่งเจริญเติบโตในมดลูกและไปรับการผ่าตัดเพื่อเอาสิ่งนั้นออก ซีสต์ที่ได้ตัดออกมีเลือดดำเต็มไปหมด เธอคิดว่าจะดีขึ้นหลังจากการผ่าตัด แต่เธอคาดผิดอย่างมาก


 

 
มีการเกิดซ้ำหลังจากนั้นอีกสองสามเดือนต่อมา ด้วยความกังวลใจ เธอรีบไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญโรคสตรี ระหว่างการปรึกษา แพทย์ของเธอได้ถามคำถามหนึ่งที่ทำให้เธองุนงง เขาถามว่าเธอเป็นคนที่กินปีกไก่บ่อยหรือเปล่าและเธอก็ตอบว่าใช่พร้อมกับ สงสัยว่าเป็นอย่างไรที่แพทย์คนนี้รู้อุปนิสัยการกินของเธอ คุณเห็นไหมว่า ความจริงก็คือในโลกสมัยใหม่และเก่าแก่นี้ บรรดาไก่ได้ถูกฉีดด้วยสารสเตอรอยด์เพื่อเร่งการเจริญเติบโตเพื่อตอบสนองความ ต้องการของสังคม การฉีดสารเสตอรอยด์นี้ไม่จำเป็นเลยกว่าการต้องการอาหาร  

บรรดาไก่ที่ถูกฉีดสารสเตอรอยด์ส่วนมาก จะฉีดไปที่บริเวณคอหรือที่ปีกไก่ดังนั้น ตรงนี้เองเป็นที่สารสเตอรอยด์เข้มข้นยังคงอยู่ สารสเตอรอยด์เหล่านี้มีผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างร้ายแรงเมื่อมันเร่งการ เจริญเติบโต มันยังมีผลอันตรายยิ่งต่อฮอร์โมนของสตรี ที่นำไปสู่การเจริญเติบโตของซีสต์ในมดลูก ดังนั้น ขอแนะนำให้ทุกคนระมัดระวังการควบคุมอาหารและรับประทานปีกไก่ให้น้อยที่สุด