ประเทศไทยตอนนี้
ติดเหลือง แดง อยู่นี่เอง ชาติ (นี้) ไม่ต้องไปไหน
สังคม ไทย หยุดนิ่งไม่พัฒนามา 2-3 ปีแล้ว เพราะติดไฟเหลืองกับไฟแดง จนเพื่อนบ้านแซงหน้าประเทศไทยไปหมดแล้ว นับเป็นความโชคร้ายของประเทศไทยโดยแท้ คนไทยส่วนใหญ่ อยากเห็นไฟเขียว ที่จะเปลี่ยนผ่านบ้านเราไปสู่ความรุ่งเรืองอีกครั้ง
เป็นที่รับรู้ของคนในแวดวงการตลาดและโฆษณาว่าป้ายโฆษณายักษ์ที่ตั้งอยู่อยู่ ข้างๆกับตึกของ "ประกิต โฮลดิ้ง" ริมทางด่วน บางนา (สุขุมวิท 62 ) นั้นเป็นป้ายโฆษณาที่มีไว้สำหรับโฆษณาประชาสัมพันธ์ในเชิงสร้างสรรค์สังคมใน โอกาสต่างๆ
และที่ฮือฮาจนกลายเป็นที่รับรู้ของสังคมคือ โฆษณาชุดเมาไม่ขับ ที่ทำเป็นรูปป้ายทางด่วน ใช้ตัวอักษรคล้ายของจริง เปลี่ยนชื่อ "ยมราช" เป็น "ยมโลก" จาก "ดาวคะนอง" เป็น "เมาคะนอง" จาก "แจ้งวัฒนะ" เป็น "แจ้งมรณะ"
ล่าสุด ได้นำเสนอป้ายโฆษณาสร้างสรรค์สังคมในอีกโอกาสหนึ่ง ด้วยการนำเสนอป้ายโฆษณาที่มีไฟสัญญาณจราจรเพียง 2 สีเท่านั้น คือ "ไฟสีแดง" และ "ไฟสีเหลือง" พร้อมระบุข้อความว่า "ชาตินี้ไม่ต้องไปไหน" พร้อมคำขอร้องต่อว่า...เพื่อพ่อ ให้ชาติไปต่อเถอะครับ
เพราะถ้าสัญญาณไปของประเทศไทยมีแค่ไฟ 2 สี ประเทศชาติก็จะไปไหนไม่ได้สักที ติดอยู่กับ "2 สี" นี้แหละ
โฆษณาชิ้นนี้ "ประกิต อภิสารธนรักษ์" บอสใหญ่ค่ายประกิตฯ นักโฆษณารุ่นเก๋า และต้นฉบับโฆษณาเพื่อสังคมในยุคแรกๆ บอกว่า ได้ติดตั้งมาตั้งแต่ต้นเดือธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งคนที่ผ่านไปผ่านมาก็โทรเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่รู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ทางการเมืองไทยมานาน
เป็นการสื่อความหมายที่เชื่อว่าตรงใจคนไทยหลายๆ คน
10:12 PM | Labels: ทั่วไป | 0 Comments
เรื่องของเกรด
A = animal สมองน้อย
อันเกรด A เขาว่าเหมือนเช่นสัดว์
วันๆ ฟัดแต่ตำราน่าอดสู
A Animal สมองน้อยหงอยน่าดู
สงสัยครู ให้ได้ไง ไม่ค่อยเจอ
B = basic ก็แค่พื้นๆ
B Basic ใครๆก็ทำได้
เพราะมันง่ายกันไปจนน่าขำ
คนว่า"เบ" เกินไปเลยไม่ทำ
กลัวตอกย้ำความเบสิกสะกิดใจ
C = common ธรรมดา งั้นๆ
C Common แบบนี้สิใช้ได้
คนทั่วไปยอมรับและนับถือ
เกรดแบบนี้ได้มาเรียก "ฝีมือ"
แต่ก็ถือว่ายังอ่อนเกินไป
D = diligent ฉลาด หลักแหลม
D Deligent เกรดสุดฮิตของคนขยัน
ฟิตทั้งวันแต่เลคเชอร์ไม่เคยสน
conc. วิชา จีบสาว ม่อเกินทน
สุดยอดคน นายเยี่ยมมาก พูดจากใจ
F = fever เก่งจนเกิดกระแสความดัง
เกรดใดๆไม่เท่า F Fever
ได้กันเกร่อรู้ทั่วถึงไหนๆ
ใครได้มา ก็ Fever น่าชื่นใจ
แล้วค่อยไป เรียนซัมเมอร์ ด้วยกันเอย....
10:14 PM | Labels: ทั่วไป | 0 Comments
ดอกไม้ประจำเดือนเกิด
1. เดือนมกราคม - ดอกเบญจมาศ
"ดอกเบญจมาศ" นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสูงส่ง ในบางแห่งใช้ดอกเบญจมาศนี้แทนสัญญลักษณ์ของกษัตริย์ หรือราชวงศ์ที่สูงศักดิ์ ดอกเบญจมาศมักบานเป็นเวลานานก่อนที่จะโรยรา ซึ่งแอบแฝงความนัยว่า มีหลักแหลมแฝงอยู่ตัวตนเป็นพิเศษผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงฉลาดหลักแหลม มีความสำเร็จในชีวิต และมีเพื่อนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา เช่นเดียวกับกลีบที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ หลายชั้นมีคนอุ้มชู เกื้อหนุนตลอดเวลา แถมยังเป็นนักฟังที่ดีด้วย
"ดอกกล้วยไม้" นั้น ถือว่าเป็นที่ต้องการดูแลการเอาใจใส่เป็นอย่างดี ต้องปลูกในที่ร่มในเรือนเพาะชำคำนวนอัตราสัดส่วนของน้ำและแสงให้พอเหมาะ ถึงจะงอกงามสวยงาม เช่นกัน ผู้ที่เกิดในนี้ จึงเป็นต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก และยังเป็นแรงบันดาลใจให้มนุษย์มีความใฝ่ฝันที่จะผลักดันความฝันตัวเองให้เป็นจริง และเต็มไปด้วยความเอื้ออาทรและเอาใจใส่ทุกๆสิ่งทุกอย่างรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ มีความฉลาดหลักแหลม รักธรรมชาติ และใจกว้าง แต่เนื่องจากกล้วยไม้นั้นเป็นดอกไม้มีกลีบดอกที่ค่อนข้างหนา บานได้นานกว่าดอกไม้อื่นๆ จึงต้องดูแลในระยะยาวนานและจริงจัง เพื่อให้มันคงความงดงามอยู่ตลอดไป
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกุมภาพันธ์ คุณเป็นคนที่มีความสนใจในด้านปราชญาศาสนา ประวัติศาสตร์ สถูปโบราณ แต่ก็สนใจความรู้สมัยใหม่ร่วมไปด้วย เพื่อผสมผสานศาสตร์เก่าและใหม่เข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน
"ดอกคาร์เนชั่นแดง" นั้น ถือว่าเป็นดอกไม้โปรดของบรรดาเหล่าศิลปิน เพราะเป็นดอกไม้แห่งความฝันอันลึกลับ เป็นแรงบันดาลใจที่ปรากฏขึ้นให้เห็นในโลกแห่งตัวตนของคนในเดือนนี้ เมื่อความฝันนั้นถูกนำเข้าสู่ความจริง ไม่ว่าจะด้วยงานเขียนภาพแนวสร้างสรรค์ หรืองานบริการต่างๆ ก็ตาม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้ ส่วนใหญ่จึงมีบุคลิกเป็นไปในทางอาร์ท ศิลปิน ออกแนวเซอร์ กันให้เห็นอย่างชัดเจน
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมีนาคมนั้น มีสัมผัสพิเศษในการติดต่อกับโลกแห่งวิญญาณ มีใจฝักใฝ่ในหลักธรรมคำสอนเป็นการส่วนตัว
"ดอกลิลลี่" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำอยู่ในท่ามกลางธรรมชาติอยู่แล้ว สังเกตได้ว่าดอกลิลลี่จะโดดเด่นกว่าดอกไม้อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดจัดช่อหรือการจัดซุ้มดอกไม้ และก็เป็นที่ประทับใจให้กับทุกๆคนที่ได้รับมันด้วย
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนเมษานั้น มีความสนใจในด้านปราชญาที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะและภาพเขียนแนวสัจนิยม
"ดอกลีลาวดี" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้บ่งบอกถึงความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติ บอกถึงความเป็นตัวตนของผู้ที่เกิดเดือนนี้ ด้วยลักษณะของดอกลีลาวดีมีสีขาว มองดูแล้วให้ความสงบสุข ผู้ที่เกิดเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีบุคลิกที่รอบคอบ สุขุม และจะมองการณ์ไกล สุขุมรอบคอบ และเต็มไปด้วยความรักในมวลมนุษย์ ดอกลีลาวดีนี้มักถูกปลูก หรือแต่งแต้มสีสันลงในภาพวาดภาพเขียนเพื่อนชื่นชม และใช้ประโยชน์ตั้งแต่แกลอรี่งานศิลปะ ไปจนถึงการนำไปปรุงแต่งเป็นน้ำมันหอมระเหยหรืออะไรมาเธอราพี เพื่อบำบัด นอกจากนั้นยังนำมาปรุงอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะฉะนั้นคนที่เกิดเยี่ยงดอกลีลาวดีนี้มักโกรธยากและมีความจำเป็นเลิศ
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤษภาคมนี้ คือเป็นผู้ชื่นชมความงามของธรรมชาติอย่างมาก และมีสัมผัสพิเศษในเรื่องของปรากฏการณ์ธรรมชาติ
"ดอกเล็บมือนาง" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่ไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เพราะมักจะบานบ่อยๆ ด้วยเสน่ห์แบบง่ายๆ และความเฉลียวฉลาด เป็นดอกไม้ที่มีความงามแบบเฉพาะตัวเมื่อปลูกอยู่ริมรั้ว ผู้ที่มีดอกไม้นี้เป็นดอกประจำเดือน มักจะเป็นคนที่มีความคิดเปิดกว้างและยืดหยุ่น แต่อารมณ์แปรปรวนง่าย โดยเฉพาะในเรื่องของความรัก
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนมิถุนายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะสนใจเรื่องศาสนาและนิกายแปลกๆ
"ดอกบัว" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความอ่อนหวานในสระน้ำลึก บรรยากาศที่ดีเป็นสิ่งที่จะทำให้ดอกไม้นี้ผลิบานงดงามเต็มที่ ผู้ที่เกิดเดือนนี้ก็เช่นกัน เค้าต้องการสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น สวยงาม เรียบร้อยและมีระเบียบ ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักจมอยู่กับห้วงแห่งความฝัน มักคาดหวังในชีวิตสูง
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกรกฎาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักฝักใฝ่ที่จะแก้ไขปัญหาในทุก ๆ เรื่อง และชอบที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีความกรุณาเอื้ออาทรสูง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดี
"ดอกทานตะวัน" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตร และความสดใสร่าเริง ที่สำคัญยังงามโดดเด่น ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ที่อารมณ์ดีที่สุดในหมู่ดอกไม้ทั้งหมด ดอกไม้ชนิดนี้มีใจกลางดอกที่งามเด่น แสดงถึงความมั่นใจและไม่ค่อยเรื่องมากในเรื่องของความรัก แม้จะเด่นก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากเป็นพิเศษ กลับชอบที่จะอยู่อย่างสันโดษหาความสนุกสนานใส่ตัวมากกว่า
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนสิงหาคม ผู้ที่เกิดเดือนนี้มักมีความนับถือในพระอาทิตย์ ชื่นชมแสงแดดเป็นพิเศษ และที่สำคัญรักธรรมชาติเป็นที่สุด
"ดอกทิวลิป" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่บ่งบอกถึงความนุ่มนวลและถูกขัดเกลามาอย่างดี ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้ที่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นๆ มากกว่าระดับปกติ มีหัวใจที่ลึกซึ้งด้วยความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้างแสดงถึงความฉลาดหลักแหลม ชอบที่จะใช้วิธีในทางธรรมชาติบำบัด ดอกทิวลิปเป็นดอกไม้แห่งความรู้สึก "ซาบซึ้ง" โดยจะสังเกตเห็นได้จาก เป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงระเบียบ ตรงต่อเวลา แต่ก็มักวิตกกังวลกับเรื่องต่างๆ ได้ง่าย
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนกันยายน ผู้ที่เกิดเดือนนี้จะชอบเข้าวัดและผูกพันลึกซึ้งกับศาสนา เชื่อเรื่องโชคลางโหราศาสตร์เป็นพิเศษ
"ดอกกุหลาบ" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่มีความโดดเด่น อ่อนหวาน เข้าได้กับทุกสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แถมชอบบรรยากาศที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธ์ ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงหลงไหลกับบรรยากาศรอบข้างไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่คนมีระเบียบมากนัก ออกจะรกกว่าคนอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป และเนื่องจากดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม จึงมีอิทธิพลให้ชาวเดือนนี้มักเป็นคนที่มีเสน่ห์ในวงสนทนาเป็นพิเศษ
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนตุลาคม ผู้ที่เกิดในเดือนนี้เชื่อมั่นในความรัก และศรัทธาในศาสนาอย่างลึกซึ้ง รักความสงบเป็นพิเศษ
"ดอกตะบองเพชร" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้ที่แอบแฝงด้วยความลึกลับในกำเนิด และเกสร รวมทั้งในทุกๆ กลีบดอก ผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมักมีความลับนับร้อยๆ อยู่ในการดำเนินชีวิตของเขา แต่สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ดึงดูงเพศตรงข้ามได้อย่างล้ำลึก เนื่องจากน่าสนใจและน่าค้นหาไม่รู้จบนั่นเอง ชาวเดือนนี้จึงมักชอบอยู่เงียบ ๆ ในออฟฟิตมากกว่าจะออกไปสังคมข้างนอก และมักจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่เสมอ
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนพฤศจิกายน ผู้ที่เกิดเดือนมักมีสัมผัสเร้นลับเกี่ยวกับความเชื่อโชคลางและศาสนา
"ดอกพุทธรักษา" นั่น ถือว่าเป็นดอกไม้แห่งความสนุกสนาน ความโชคดีของชีวิต มีความสว่างไสวอยู่ในมุมที่น่าเบื่อที่สุดของสวน ดังนั้นผู้ที่เกิดเดือนนี้จึงมีความประพฤติดีๆ และมีระเบียบวินัยที่ผ่อนคลายยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา จึงมักที่จะเป็นแรงกำลังใจให้กับเพื่อนฝูงในเวลาตกต่ำของชีวิต ทำให้คนอื่นรอบข้างมองโลกในทางที่ดีขึ้น เบิกทางสู่เสรีภาพ และมักนำคนรอบข้างไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องอยู่เสมอ
จิตอันซ่อนเร้นของชาวเดือนธันวาคม มีบุคลิกโดดเด่น ร่าเริงและมีความสามารถในการปลอบโยนให้กำลังใจคนได้ดี และที่สำคัญมีความศรัทธาเกี่ยวกับเรื่องการก่อตั้งองค์กรทางศาสนา
4:16 PM | Labels: ทั่วไป | 0 Comments
กรุ๊ปเลือดฉบับการ์ตูน
คนวาดตัวจริงเป็นชาวเกาหลีที่ใช้นามแฝงว่า Realcrazyman หรือ 쳐돌았군맨 ในภาษาเกาหลี เจ้าของเว็บไซต์ http://www.cyworld.com/realcrazyman และ http://paper.cyworld.com/mazingablue
4:07 PM | Labels: ทั่วไป | 0 Comments
ตำราไม่ล้างไต
สำหรับผู้ป่วยเป็นโรคไตให้พ้นทุกข์จากการฟอกไตด้วย เรื่อง ตำราไม่ล้างไต
ถ้าข้าพเจ้าได้รับตำรานี้เมื่อ 25 ปีก่อน ลูก ๆ คงไม่ต้องมาร้องเพลงชื่อ " คนอื่นมีแม่ ฉันไม่มี"
การที่จะ เอาเมล็ดลิ้นจี่มาทำยานั้นง่ายมากสำหรับข้าพเจ้าเพราะที่บ้าน ปลูกต้นลิ้นจี่กว่า 50 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่า มันคือยาวิเศษในการรักษาโรคไต คู่ชีวิตของข้าพเจ้าต้องทรมานเสียเวลา 14 ปีในการฟอกไตและในที่สุดก็ต้องจากไป
ในใต้หวันมีผู้คนป่วยเป็นโรคไตจำนวนมากที่ต้องทำการฟอกไต การที่ต้องไปฟอกไตเพราะไตเสื่อมลง จนไม่มาสามารถขับถ่ายของเสียออก บางทีญาติหรือเพื่อนของท่านบางคนกำลังฟอกไตอยู่ จึงอยากให้ท่านช่วยเผยแพร่ตำราวิเศษออกไปให้ทั่ว จะเป็นบุญกุศลยิ่ง คนที่นำไปทดลองใช้จะมีแต่ได้ ไม่มีเสียอย่างแน่นอน ช่วยได้ 1 คนเท่ากับช่วยทั้งครอบครัว
ข้าพเจ้า เป็นโรคไตเพราะเป็นโรคเบาหวานนาน 20 ปี ความเป็นทุกข์ ทรมานนี้ ทำให้ข้าพเจ้าเบื่อต่อชีวิต และคิดจะจบชีวิตตนเองหลายครั้ง แต่มาคิดได้ว่า ถ้าเราพ้นทุกข์แล้วทำให้หลายคนต้องรับทุกข์ต่อ ลูกหลานหลายคนยังเรียนไม่จบ ยังตั้งตัวไม่ได้ เลยรับกรรมไปฟอกไตต่อ มีคนเสนอตำราลับ ตำราวิเศษให้ แต่ไม่เคยเชื่อ ข้าพเจ้าเชื่อแต่แพทย์แผนปัจจุบัน จึงเดินเข้าห้องฟอกไต ขอสู้กับมัจจุราชต่อไป
ข้าพเจ้า เกิดนึกถึงคำพังเพยจีนว่า "ม้าตายแล้ว ให้นึกว่ารักษาม้าเป็น" บางทีชีวิตนี้อาจมีความหวัง จึงขอทดลอง หลังฟอกไตครั้งที่ 2 แล้ว คุณน้ามาเยี่ยมถามว่าอยากลองตำราวิเศษไหม รับรองไม่ต้องฟอกไต อีกต่อไป ข้าพเจ้าก็ตกลงทันที ตอนบ่ายคุณน้านำซุปเส้งจี้มา 1 หม้อแบ่งดื่ม 2 ครั้ง วันที่ 2 นำมาอีก 1 หม้อ (ราว ชามครึ่ง) พร้อมให้กินเส้งจี้อีกครึ่งลูก ในวันนั้น ปรากฏว่าการถ่ายปัสสวะดีขึ้น พอวันที่ 3 ซึ่งจะต้องฟอกไต แต่หมอตรวจแล้วว่าวันนี้ยังไม่ต้องฟอกก่อน
ข้าพเจ้าได้ดื่มซุปเส้งจี๊ประมาณ 1 อาทิตย์ ไปตรวจอีก คราวนี้หมอประหลาดใจมาก แจ้งว่าไตปกติแล้ว ไม่ต้องฟอกแล้ว
ตำราวิเศษมีดังนี้
- เมล็ด ลิ้นจี่สด 7 เม็ด ทุบให้แตกแล้วใช้ผ้าขาวอย่างบาง ๆ ห่อไว้
- ซื้อเส้งจี๊หมู 1 ลูก หั่นเป็นแผ่นบางล้างให้สะอาดเลาะเอาเอ็นสีขาวออก
- เอาน้ำซาวข้าวครั้งที่ 2 จำนวน 2 ชาม นำเข้าใส่ในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า ทำการนึ้งเป็นเวลา 30 นาที
- แล้วให้ดื่มหมดครั้งเดียวก็จะได้ผล
เพิ่มเติม: ผมเคยฟังรายการวิทยุได้จดไว้เเละข้อมูลตรงกัน
3:37 PM | Labels: สุขภาพ | 0 Comments
ปีกไก่มรณะ สำหรับผู้หญิง!!
8:56 PM | Labels: สุขภาพ | 0 Comments